”หยุดไอ หยุดอาย” ด้วยวิธีง่ายๆ แค่วันละ 3-4 เม็ด

1677 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รูปภาพบทความ กิกเก้

          ยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะออกไปเดินที่ไหน ก็เจอแต่มลภาวะ แถมยังเจออากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เจอทั้งความชื้นและฝุ่นควันพิษแบบนี้ ทำให้ร่างกายหลายคนสู้ไม่ไหว เป็นหวัด ไอ เจ็บคอ กันได้ง่าย ยิ่งถ้าในบางคนที่ไอต่อเนื่องเป็นประจำ จะส่งผลต่อบุคลิกภาพและสุขภาพด้านอื่นๆได้ เช่น เมื่ออยู่บนรถไฟฟ้า หรือตามแหล่งชุมชน อาจถูกมองด้วยสายตาหวาดระแวงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ด้วยแล้ว
 
แล้วจะมีเครื่องมืออะไรช่วยรับมือ ถ้าไม่อยากถูกมองเป็นเป้าสายตา !

เวลาออกมานอกบ้าน ถ้าจะต้องเปิดแมสก์บ่อยๆ เพื่อกินยา หรือจิบน้ำเมื่อรู้สึกอยากไอ ก็คงไม่ใช่วิธีที่ดีเท่าไร การใช้ยาอม เพื่อทำให้ชุ่มคอ ลดการระคายเคือง คงจะเป็นวิธีที่เหมาะกับสถานการณ์มากกว่า
 
ยาอมแก้ไอ แบบไหนจะเหมาะสม

ยาอม ที่พบเจอทั่วไปก็มีหลายแบบ ทั้งยาอมที่ผสมตัวยาฆ่าเชื้อ ยาอมที่มีตัวยาแก้ไอทั้งแบบไอแห้ง และไอแบบมีเสมหะ นอกจากนี้ ยาอมจากสมุนไพร ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมเลือกใช้กันมาก เพราะคนส่วนใหญ่นิยมหันมาดูแลตัวเองด้วยผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรแทนการใช้ยาแผนปัจจุบันมากขึ้น ทั้งด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ช่วยให้ชุ่มคอ และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เพราะมักจะเป็นส่วนผสมจากสมุนไพรที่มีประวัติการใช้เป็นยาพื้นบ้านมายาวนาน ทำให้ในปัจจุบัน เรามักจะเลือกใช้ยาอมจากสมุนไพรกันมากกว่ายาอมประเภทอื่นๆ
 
สมุนไพรที่นิยมนำมาใส่ในยาอม มีอะไรกันบ้าง

1.รากชะเอมเทศ
 

 
“ต้านพิษ ลดอักเสบ”

ชื่อวิทยาศาสตร์ Glycyrrhizae glabra

ชะเอมเทศ หรือชื่อภาษาจีน เรียกว่า กำเช่า หรือกันเช่า เป็นพืชที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สมุนไพรสารพัดประโยชน์” ทั้งช่วยขจัดพิษ ต้านการอักเสบ บำรุงหัวใจ ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว นิยมนำรากชะเอมเทศมาผสมในตำรับยาน้ำและยาอมแก้ไอ เพราะมีรสหวานชุ่มคอ และช่วยขับเสมหะได้ นอกจากนี้ ยังค้นพบกันว่า สารสำคัญชนิดหนึ่งในรากชะเอมเทศ มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ โดยจากหลายการศึกษา พบฤทธิ์การต้านไวรัสของสารสำคัญ Glycyrrhizin ต่อไวรัสหลายชนิด รวมถึงมีคุณสมบัติต้านการเข้าจับกับเซลล์ของ coronavirus หรือ Covid-19 ซึ่งอยู่ในระหว่างการนำมาศึกษาต่อยอดเพื่อพัฒนาเป็นยารักษาในขั้นต่อไปได้
 
 


“บำรุงปอด ต้านอนุมูลอิสระ”

ชื่อวิทยาศาสตร์ Platycodonis glandiflorus

รากกิกเก้ เป็นสมุนไพรแผนจีนที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่ง กิ๊กเก้ จัดว่าเป็นสมุนไพรที่หายากตัวหนึ่ง และมักใช้ในทางการแพทย์จีนเป็นหลักมากกว่า จึงไม่พบการใช้ในตำรับยาแผนไทยทั่วไปเท่าไรนัก มักนำมาใช้เป็นส่วนผสมในยาแก้ไอ ขับเสมหะ โดยมีสรรพคุณช่วยบำรุงปอด บรรเทาอาการแน่นหน้าอก และทอนซิลอักเสบ และยังมีการศึกษาที่พบว่า  สารซาโปนิน Platycodins ในรากกิ๊กเก้ มีส่วนช่วยคุมอาการของโรคหอบหืด รวมถึงช่วยต้านสารอนุมูลอิสระได้อีกด้วย
 
 


"แก้ร้อนใน กระหายน้ำ"

ชื่อวิทยาศาสตร์ Camellia sinensis O. Ktze.

“ชา” เป็นสมุนไพรที่เราคุ้นเคยกันดีในชีวิตประจำวัน ในฐานะเครื่องดื่ม ส่วนผสมในอาหาร และในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ด้วยคุณสมบัติของสารสำคัญกลุ่มโพลีฟีนอลที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดี นอกจากนี้ ยังช่วยแก้พิษร้อนใน ระบายความร้อนจากปอด ขับเสมหะ แก้กระหายน้ำได้ดี จึงสามารถนำมาใช้เป็นหนึ่งในส่วนผสมของตำรับยาอมแก้ไอได้เช่นกัน
 
 


"เย็นชุ่มคอ ช่วยขับลม"

ชื่อวิทยาศาสตร์ Mentha arvensis L.

            Japanese mint หรือ สะระแหน่ญี่ปุ่น คือ ชื่อของสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้ในตำรับยาขับลม จุกเสียด แน่นเฟ้อ และด้วยคุณสมบัติของสารเมนทอล (menthol) ในน้ำมันที่ได้จากใบสะระแหน่ ที่ให้ความเย็นชุ่มคอ จึงมักนำมาใช้แต่งกลิ่นรสในตำรับยาอมแก้ไอกันโดยทั่วไป

ยาอมจาก 4 สมุนไพร เพื่อประโยชน์ที่ดียิ่งขึ้น

เรามักจะพบยาอมสมุนไพรที่มีส่วนผสมของรากชะเอมเทศได้ทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันนี้ มีการเสริมสรรพคุณด้วยสมุนไพรอื่นๆ เช่น รากกิ้กเก้ ใบชา สะระแหน่ เพื่อเพิ่มฤทธิ์ในการรักษาและช่วยแต่งกลิ่นรสให้ชุ่มคอเหมาะสำหรับการใช้เป็นยาอมแก้ไอยิ่งขึ้น โดยสามารถอมได้บ่อยครั้ง 3-4 เม็ดต่อวัน หรือตามต้องการ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้